คุณธรรมกับการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า

แนวความคิดและคุณธรรมที่นำเสนอเพื่อการพิจารณาปฏิบัติลักษณะนี้ นอกจากกล้วยไม้ป่าแล้ว หากต้องการอนุรักษ์สิ่งใดก็ตาม น่าจะช่วยให้เตือนสติและมีผลทำให้ประสบผลสำเร็จอันพึงปรารถนาได้ทุกเรื่อง
มนุษย์ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันบนผิวพื้นโลกใบนี้ ถ้าใช้คุณธรรมนำปฏิบัติระหว่างกันและกัน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างชีวิตที่ด้อยโอกาสกว่ากับฝ่ายที่เหนือกว่า บรรยากาศภายในโลกใบนี้ย่อมนำไปสู่ความสุขยิ่งกว่าเก่า
อนึ่ง ฉันกล้ายืนยันหลักการที่จะกล่าวต่อไป เพราะตัวเองได้นำปฏิบัติโดยถือหลักเกณฑ์อันเป็นที่มาตลอดชีวิตอันยาวนาน จึงทำให้เชื่อมั่นได้อย่างปราศจากข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น

จากความจริงระหว่างคุณธรรมกับการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า ยิ่งการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่มีความแตกต่างกัน ปกติมนุษย์กับมนุษย์ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันบนผิวพื้นโลกใบนี้ ทุกคนต่างก็ต้องการความสงบสุขด้วยกันทั้งนั้น
แท้จริงแล้ว ความสุขที่อยู่บนพื้นฐานความจริง หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงความสุขซึ่งอยู่บนพื้นฐานความยั่งยืน การนำปฏิบัติต่อกันควรให้ความสำคัญแก่กันและกันโดยไม่คิดทำร้ายซึ่งกันและกันหากให้โอกาสในการเรียนรู้ระหว่างกันเป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะในยุคนี้ มนุษย์ฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่า มักนำเอาการอนุรักษ์มาอ้างเพื่อใช้โอกาสบังคับฝ่ายที่ด้อยโอกาสกว่าตน โดยเฉพาะประเทศในแถบร้อนของโลก เพื่อหวังผลประโยชน์ทางวัตถุ โดยที่คิดว่าคนอื่นจะไม่รู้เท่าทัน
ดังนั้น ประเทศที่อยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรของโลกซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติอย่างหลากหลายภายในวิถีชีวิตของประชากรในประเทศนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพที่ยากไร้ แม้เพียรพยายามคิดแก้ไขปัญหาก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาหนักมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เพราะเหตุว่า การใช้อำนาจแก้ไขปัญหาที่อ้างว่าต้องการอนุรักษ์ยังคงตกอยู่ในสภาพจากด้านบนลงมาสู่ด้านล่างเช่นเดียวกันกับทฤษฎีโดมิโน
ความจริงแล้วถ้าใช้คุณธรรมและจริยธรรมเพื่อนำปฏิบัติจากความจริงที่อยู่ในใจตนเองโดยไม่ลืมไปว่า ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาสู่โลกใบนี้ แต่ละคนล้วนมีความรักอยู่ในรากฐานจิตวิญญาณตนเอง
นอกจากนั้น การนำปฏิบัติระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ แม้มนุษย์กับต้นไม้ ล้วนมีหน้าที่พึ่งพาอาศัยระหว่างกันและกัน หากทุกชีวิตรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่หมุนวนเป็นวัฏจักรตามหลักธรรมชาติ ถ้ามีโอกาสดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระ ย่อมส่งผลช่วยให้มอบวิญญาณความรักให้แก่กันและกัน แม้มนุษย์กับกล้วยไม้
ถ้ามนุษย์ดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระ ย่อมได้รับประโยชน์จากกล้วยไม้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ด้านหนึ่งหมายถึงการได้รับประโยชน์ทางวัตถุ ส่วนอีกด้านหนึ่งย่อมช่วยทำหน้าที่อนุรักษ์พรรณไม้ซึ่งตนได้รับประโยชน์ทางวัตถุเอาไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในระยะยาว จึงไม่ทำให้พรรณไม้ที่ต้องการอนุรักษ์จำต้องประสบกับสภาวะสูญเสีย
จึงสรุปได้ว่า การใช้อำนาจบังคับฝ่ายหนึ่งจากอีกด้านหนึ่งโดยอ้างว่าต้องการอนุรักษ์ ถ้าเป็นผู้ที่มีความฉลาดอีกทั้งเฉลียวใจ ก็น่าจะหยั่งรู้ความจริงได้ว่า คือการกีดกันผลประโยชน์จากฝ่ายหนึ่งซึ่งมีโอกาสอยู่เหนือกว่า กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งด้อยโอกาสกว่าตน โดยที่คิดว่าคนอื่นจะไม่รู้เท่าทัน หรือทราบแล้วแต่เพราะเกรงอำนาจจึงไม่แสดงออกเพราะไม่กล้าขัดขืน และเงื่อนปมดังกล่าว หากไม่ได้รับการแก้ไขในปัจจุบันทันด่วน ย่อมสะสมพลังความขัดแย้งอีกทั้งบานปลายออกไปไม่ว่าเร็วหรือช้า ทำให้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เพื่อล้างโลกใบนี้ได้ไม่ยาก
บทความเรื่องนี้จึงน่าจะมีผลเตือนสติให้ทุกคนคิดได้เองเพื่อนำไปสู่สันติภาพของโลกได้ในที่สุด

12 กรกฎาคม 2553

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *