กว่าจะถึงวันนี้!

                ชีวิตคนเรานั้น เท่าที่ฉันได้ผ่านพ้นมาแล้วนานกว่า 90 ปี ในแต่ละช่วงของการดำเนินชีวิต ถ้าใครไม่คิดทบทวนตัวเองอยู่เสมอ นาวาชีวิตมันก็คงล่มทำให้จมน้ำตายไปนานแล้ว เรื่องนี้ฉันเชื่อว่าไม่ผิดแน่ เพราะทุกครั้งที่เกิดปัญหาแทนที่ฉันจะร้องตะโกนลั่นเพื่อการต่อสู้กับมัน ก่อนที่จะตั้งหลักให้มั่นคงเพื่อดำเนินการต่อมาเป็นช่วงๆ ชีวิตใครหรือจะรอดตายมาได้ถึงบัดนี้

ฉันนึกถึงชีวิตในช่วงเริ่มแรก ซึ่งตัวเองไม่มีเงินที่จะสู้กับปัญหา แต่อยู่มาวันหนึ่งพ่อได้เลี้ยงฉันให้เป็นคนเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา

ไม่เพียงเท่านั้น พ่อยังปล่อยให้ชีวิตฉันต้องเผชิญกับความยากลำบากเพื่อหวังต่อสู้กับใจตนเองให้ได้เสียก่อน แต่ฉันก็เป็นคนไวใจหาย หลังจากถูกพ่อปล่อยให้อิสระทั้งๆ ที่มีการครอบงำด้วยปัญหาใหญ่ๆ อยู่ในขณะนั้น แต่พอฉันสู้มันได้ก็เริ่มเข้าใจว่าอาจเป็นเพราะพ่อเป็นคนใจกว้าง และมีความทุกข์ทรมานเป็นครูสอนให้ใจตนเองลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้กับภัยเหล่านั้นได้สำเร็จ

คนเดี๋ยวนี้ ส่วนใหญ่มีความใฝ่ฝันที่จะได้รถยนต์คันงามๆ แต่ผู้ใหญ่ก็ใจแข็ง หลังจากรู้ว่าลูกหลานต้องการความโก้หรู ก็ไม่ยอมให้ ไม่ว่าจะต้องต่อสู้หนักมากสักเท่าไหร่

ในที่สุดฉันก็พยายามจนกระทั่งได้รับผลสำเร็จ แม่มักถามว่าการที่แกสนใจแล้วได้รถมานั้นเป็นเพราะตัวแกเองใช่หรือเปล่าที่มุ่งมั่นต่อสู้กับสภาวะแวดล้อม จนกระทั่งทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกประทับใจเอามากๆ

ฉันตอบว่า “ใช่แล้ว”เพราะผู้ใหญ่ต้องการให้ฉันทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่นึกถึงความจนความรวยว่าจะต้องมีมากแค่ไหน

อยู่มาวันหนึ่ง “บริษัทหลวงรักษา”ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างประมูลของเก่าๆ ภายในบ้านของแต่ละคนเอาไว้ ให้มีผู้คนมาต่อรองมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าพบความจริงได้ถึงเหตุและผลก็ย่อมมองเห็นว่า คนๆ นี้เอาจริงเอาจัง ดังนั้นการประมูลด้วยการเลหลังของเก่าแต่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ในที่สุดบริษัทหลวงรักษาก็จะเข้าไปรับจ้างประมูลเพื่อเอาเงินที่ครองอยู่ในขณะนั้นมาเป็นราคาและมูลค่า

ฉันจำได้ว่าอยู่มาวันหนึ่ง โดยเฉพาะในวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2470 ฉันได้ทราบข่าวว่า บริษัทหลวงรักษา ซึ่งเป็นเอกชนและมีผู้ดีเก่าอยู่ในนี้ได้มาประมูลของใช้อย่างหลากหลายอยู่ที่บริเวณใกล้เคียงกันกับวังบางขุนพรหม

ปกติในสมัยก่อน ถ้ามีบ้านไหนต้องการประมูลข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ บริษัทหลวงรักษาจะเป็นฝ่ายนำของเหล่านั้นออกไปประมูลสู่ประชาชน “เมื่อหมดสิ่งนี้ก็ย่อมมีสิ่งนั้นเข้ามาแทนที่”

แม้ในขณะนั้นบริษัทหลวงรักษาจะเป็นผู้ประมูลสิ่งของต่างๆ รวมทั้งเครื่องใช้ดีๆ มีราคาออกสู่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับของใช้ที่มีคุณค่า ฉันยังจำได้ว่า คนที่เป็นผู้ประมูลของได้แก่ คุณประสาน ซึ่งปกติทำงานอยู่บริเวณวังบางขุนพรหมซึ่งใช้เป็นธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องนี้ทำให้ประชาชนคนทั่วไปแม้จะมีของดีๆ ราคาแพงๆ อีกทั้งยังเป็นของเก่า เมื่อนำมาเปิดประมูลก็ย่อมมีโอกาสได้ราคาที่ดีและปลอดจากมูลค่าราคาต่ำๆ

คนสมัยนั้นโดยเฉพาะคนหนุ่มคนสาวมักต้องการใช้รถยนต์กันเป็นส่วนใหญ่ และส่วนมากมักเป็นคนขยันขันแข็งในการทำงานโดยไม่ยอมหยุดยั้งหรือพักผ่อนแต่อย่างใด ส่วนใหญ่มักหางานทำกันเอง

ตัวฉันเองเริ่มมีอายุย่างเข้า 50 กว่าปีแล้ว ความใฝ่ฝันที่จะได้รถยนต์เก่าๆ สักคันหนึ่งเพื่อนำมาใช้ในการทำงานอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็มีผู้ใหญ่ที่เมตตาช่วยแนะนำว่า “ควรจะหารถที่อยู่ในระบบการเลหลังขายซึ่งจะได้ราคาต่ำและได้ของดี”

ปกติกิจกรรมของบริษัทหลวงรักษามักมีแนวโน้มที่จะประชุมกันในวันเสาร์-อาทิตย์ อีกทั้งยังค่อนข้างระมัดระวังเรื่องราคาเพราะต้องการให้คนนำไปใช้งานให้ได้เสียก่อน

บังเอิญในวันนั้นฉันออกไปเดินตามดูการทำงานของบริษัทหลวงรักษา และพบความจริงว่า มีการเรียกชุมนุมกันในบริเวณบ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่แถวถนนตก

ฉันจึงไปอยู่ที่นั่นและค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปร่วมประชุมกับเขาด้วย แต่ก่อนเรียกประชุมเราจะเดินทางล่วงหน้าไปดูข้าวของรวมทั้งราคาที่ติดเอาไว้ ซึ่งขณะนั้นฉันได้พบรถยนต์คันหนึ่งซึ่งเป็นรถเปิดประทุนหรือที่เรียกกันว่า “รถสปอร์ต”แต่อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมากเพราะเจ้าของรถเองใช้อย่างไม่ระมัดระวัง นอกจากนั้นยังพร้อมจะเดินทางกลับต่างประเทศยังบ้านเกิดเมืองนอน

นี่แหละ เรื่องการประมูลของไม่ใช่จะเดินเข้าไปซื้อหาได้ แต่เราต้องเดินเข้าไปสนับดับฟังสิ่งที่เขาพูดคุยหรือเจรจาในนั้นด้วย พอฉันได้ฟังเรื่องราคานั้นก็แล้วแต่ใครจะให้ราคาอะไรเท่าไรก็ตาม ส่วนตัวเรานั้นจะต้องให้ความมั่นคง        รถยนต์ยี่ห้อนี้คือ “SKODA”

สภาพรถยนต์คันนี้มันก็มีสภาพชำรุดทรุดโทรม สีมันก็กะเทาะ ถ้าประมูลมาได้ก็จะต้องนำไปซ่อมแซมใหม่ แต่รถ SKODA เป็นรถทำในประเทศเชโกสโลวาเกียซึ่งเป็นรถที่มีความเข้มแข็งมาก ซึ่งฉันคิดว่าถ้าใครได้ไปก็คงไม่ต้องไปทำอะไรมันมากเพราะมันแข็งอยู่แล้ว รถยนต์คันนี้ก็เริ่มต้นประมูลด้วยราคา 1 หมื่นบาทก่อน จนสิ้นสุดลงที่ราคา 25,000บาท หลังจากนั้นก็ไม่มีกระแสการแข่งขันกันเรื่องราคา คงหยุดลงที่ราคานั้น

ฝ่ายคุณประสานที่เป็นผู้เสนอประมูลนั้นก็กล่าวย้ำอยู่เสมอว่า “ราคา 2 หมื่นกว่าแล้วนะ”ในที่สุดฉันก็ได้มาเป็นเจ้าของ แต่ก็ต้องนำมาซ่อมแซมพ่นสีและทำเบาะ ทำประทุนหลังคาใหม่ ในเมื่อของเก่ามันชำรุดทรุดโทรม แต่เครื่องยนต์ยังอยู่ในสภาพเรียบร้อย

ช่วงนั้นฉันเป็นอาจารย์สอนพิเศษอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หลายวิชา เพราะตัวเองเป็นคนริเริ่มสร้างงานใหม่ๆ อยู่เสมอ ทีแรกก็สอนวิชาสถิติและการวางแผนงานวิจัยการเกษตรก่อนอื่น ฉันสอนวิชานี้อยู่ถึง 7 ปี เพราะหลังจากนั้นมาแล้วฉันก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ

ในที่สุดก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวที่เข้ามาอาสาทำการสอนแทนฉัน ฉันเห็นว่าตัวเองไม่มีเวลาจะสอนก็ไม่ควรหวงคนอื่น

หลังจากการสอนวิชาสถิติผ่านพ้นมาได้ประมาณ 7 ปีกว่าๆ ฉันก็เริ่มสอนวิชาใหม่ อาทิเช่น การคัดเลือกและปลูกพันธุ์ข้าว ฉันสอนวิชานี้อยู่อีก 5 ปี แถมยังเริ่มต้นก่อตั้งห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพพันธุ์ข้าว

ในช่วงที่สอนวิชาคัดตรวจคุณภาพข้าว ฉันก็ได้ริเริ่มประดิษฐ์เครื่องมือรุ่นใหม่ๆ ออกมาใช้ในการตรวจคุณภาพจนเป็นผลสำเร็จ

ความจริง หลังจากมีคนมาแนะนำตัวว่าเป็นลูกศิษย์ฉัน ทำให้ฉันต้องถามเขาว่า “เป็นลูกศิษย์อะไรและวิชาไหน”

ปกติฉันเป็นครูบาอาจารย์จึงมีนิสัยชอบเห็นคนอื่นมีความรู้มากกว่าการหวงความรู้ไม่ให้ถึงคนอื่น ยิ่งได้เห็นลูกศิษย์ประดิษฐ์อะไรใหม่ๆ โดยไม่ต้องไปอาศัยฝรั่งอะไรมากมาย นั่นแหละคือวัตถุประสงค์ที่ฉันต้องการมาโดยตลอด

ในช่วงหลังที่ฉันเริ่มไปประชุมร่วมกับนานาชาติในทวีปเอเชีย ปรากฏว่ามีลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง รวมคนแล้วประมาณ 5 –6 คนเห็นจะได้ มาเอารถคันนี้ไปขับแล้วไปคว่ำทับหัวตัวเองในเขตบางซื่อ

ฉันได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งเงินเดือนขึ้น มันก็ไม่มีความหมายอะไรมากนักสำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันก็ต้องใช้เงินจำนวนนี้อย่างระมัดระวังและอย่างประหยัด จนกระทั่งได้ออกรถมือหนึ่งโดยเฉพาะในช่วงนั้นคนส่วนใหญ่มักนิยมรถยนต์ยี่ห้อ FIAT จากอิตาลี ซึ่งมีทั้งรถเล็กไปถึงขนาดกลางหรือรถที่มีขนาด 500 ซีซี ซึ่งนับว่าเป็นรถที่เล็กที่สุด และขนาด 1,100 ซีซี ไปจนกระทั่งถึงขนาด 1,800 ซีซี ฉันถึงต้องขนาดพูดไว้ว่า “ซื้อรถใหม่ดีกว่าซื้อรถเก่าใช้”ทั้งนี้เพราะถ้าซื้อรถเก่าเราไม่รู้ประวัติรถว่ามันผ่านอะไรมาบ้าง แม้จะเอามาซ่อมใช้บางครั้งมันก็ย่อมทำให้เครื่องยนต์แย่อยู่นั่นเอง อย่างที่เรียกกันว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”ฉันคงต้องเลือก “เสียน้อยดีกว่าเสียมากดีกว่า”

ทีแรกฉันเริ่มใช้รถขนาด 500 ซีซี ซึ่งนับว่าเล็กที่สุด ต่อมาภายหลังได้ยกระดับขึ้นมาใช้รถ 1,800 ซีซี ไม่เพียงเท่านั้นฉันเริ่มคิดถึงหลักการดำเนินชีวิตว่า การใช้เป็นเท่านั้นยังไม่พอหากจะต้องรู้จักซ่อมเองเป็นด้วย พอดีกันกับทางการได้เปิดการอบรมเรื่องการใช้รถ รวมทั้งการซ่อมแซมเครื่องยนต์กลไกทุกชิ้นเป็นเวลา 3 เดือนเต็มๆ ฉันจึงไปสมัครเรียนวิชานี้ด้วยเพื่อนำมาใช้รักษารถ ซึ่งสมัยก่อนระบบเครื่องยนต์มันก็ยังไม่สลับซับซ้อนมากนัก ทำให้ตัวฉันเองรู้จักยกเครื่องออกมาทำความสะอาดเมื่อถึงกำหนดตามคำแนะนำภายในสมุดคู่มือการใช้รถ

เธอเชื่อไหมว่า รถแต่ละคันที่ฉันใช้นั้นมันมีอายุนานนับ 10 ปี แต่สภาพมันก็ยังดีเป็นปกติ และการปฏิบัติเหล่านี้มันไม่ได้คลาดไปจากสายตาของคนอื่น เพราะมีคนจับจ้องจะซื้อรถยนต์ของฉัน จนกระทั่งมีคนมาถามฉันว่า “จะขายรถยนต์คันนี้เมื่อไหร่”

สรุปแล้วสิ่งที่ได้เล่ามาทั้งหมดมันไม่ใช่การเล่าเรื่องของรถยนต์ แต่เป็นการเล่าเรื่องของชีวิตที่พอจะสรุปได้ว่า สมัยนี้มีเทคโนโลยีที่พัฒนายิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เราก็อย่าเป็นทาสมัน ไม่ว่าใช้อะไรก็ต้องรู้จักใช้และทำให้เป็น บางครั้งเรื่องนิดๆ หน่อยๆ พอเกิดปัญหาก็มักเรียกช่าง ทั้งๆ ที่บางเรื่องเราก็ทำได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเราจะต้องเสียเงินมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

บางครั้งเรามีมือมีเท้าพอจะทำอะไรต่อมิอะไรเองได้ แม้การเดินมันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ หาใช่ต้องร้องตะโกนเรียกหารถยนต์เรื่อยไป ทำให้ฉันนึกถึงคำโบราณที่ทำนายไว้ว่า “มนุษย์ในอนาคตอาจต้องยืนสอยมะเขือมากิน เพราะทำอะไรไม่เป็นจนกระทั่งมือลีบเท้าลีบ กลายเป็นคนหัวโตอย่างเดียว”

ครั้นเวลาผ่านพ้นมาจนกระทั่งฉันได้รับรางวัล “ปราชญ์ของแผ่นดิน”รายการโทรทัศน์ทางช่อง 3 ก็มานำตัวฉันไปสัมภาษณ์ว่า “ท่านอาจารย์ภูมิใจในเรื่องอะไร”แทนที่ฉันจะตอบไปว่า “ภูมิใจในรางวัล”คงไม่ใช่ฉันแน่นอน หากตอบสวนกลับไปว่า “ภูมิใจที่รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้จนถึงบัดนี้โดยไม่ยอมตกเป็นเหยื่อสิ่งใดก็ตามที่มันให้ความสบายทางวัตถุ”

นอกจากนั้นยังมีคนถามฉันว่า “จะมาพบได้ที่ไหน”ฉันก็ตอบไปตามตรงว่า “ที่ไหนก็ตามที่มีเพื่อนมนุษย์กำลังตกทุกข์ได้ยาก เธอจะพบฉันได้ที่นั่นเป็นส่วนใหญ่”

 

14 เมษายน 2555

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *