บทความ

ประวัติการเพาะเมล็ดกล้วยไม้ในขวด

หวนกลับไปนึกถึงช่วงปี พ.ศ.2470 ซึ่งขณะนั้นคนไทยหลายคนตื่นเต้นกับเรื่องการเพาะเมล็ดกล้วยไม้กันมาก เพราะต่างคนก็ต่างวาดฝันไว้ว่า กล้วยไม้ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้นั้นใครเป็นคนเอาเมล็ดไปเพาะให้มันงอกได้ นี่แหละคือจิตวิญญาณคนไทยที่เห็นกล้วยไม้เป็นของเทวดา เพราะต่างคนต่างก็ไม่รู้ความจริง แล้วนำมาหวงความรู้กันเอง ฉันรู้สึกในช่วงนั้นว่า ถ้าใครเพาะเมล็ดกล้วยไม้ได้คงจะเป็นผู้วิเศษมาเกิด ขณะนั้นมีข้าราชการผู้หนึ่งซึ่งถูกส่งไปศึกษาต่อในสาขาวิชาโรคพืชในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ฟิลิปปินส์ หลังจากกลับมาได้ไม่นานก็แอบนำเอาเทคโนโลยีในการเพาะเมล็ดกล้วยไม้มาใช้ในห้องปฏิบัติการโรคพืชของทางราชการ ซึ่งอยู่ในปีกด้านทิศตะวันออกขอตึกพืชพรรณ ทั้งนี้เพราะเหตุว่าการเพาะเชื้อราที่เป็นโรคพืชกับการเพาะเมล็ดกล้วยไม้ในขวดเพาะนั้น มันมีเทคนิคคล้ายคลึงกันมาก แต่เพราะเหตุว่า การแอบทำเนื่องจากกลัวคนอื่นจะรู้จะเห็น จนกระทั่งแอบมาปิดประตูห้องแลบทำในวันอาทิตย์ จนกระทั่งเปลวไฟจากตะเกียงแอลกอฮอมันแล๊บไปถูกสำลีซึ่งใช้ทำจุกขวด ทำเอาไฟไหม้ไปแทบทั้งห้อง มันลุกไหม้ไปทั่วทั้งห้องนั่นแหละความจึงแตก อย่างไรก็ตามเพราะ “หวง” จึงมี “การแหก” อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนรุ่นน้องของฉันซึ่งทำงานอยู่ในห้องฝาเดียวกันกับห้องแลบดังกล่าว เพราะรักฉันจึงปีนฝาห้องไปแอบดูว่า การเพาะกล้วยไม้ทำยังไงรามันถึงเข้าไปในขวดเพาะไม่ได้ หลังจากนั้นจึงเอามาบอกฉัน บัดนี้เพื่อนรุ่นน้องฉันคนนั้นเขาถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่มันก็ทำให้คนที่เพาะเมล็ดกล้วยไม้สำเร็จอยู่ในปัจจุบันได้ความรู้โดยผ่านบุคคลผู้นี้มาก่อน นี่แหละเธอที่รักทุกคน การเพาะเมล็ดกล้วยไม้ในปัจจุบัน ขอให้นึกถึงคนที่เคยทำให้เธอไว้ในอดีต เพราะโดยปกติแล้วฉันเป็นคนสร้างคุณงามความดีไว้ให้กับทุกคน ดังนั้นไม่ว่าเขาจะรู้ว่าฉันต้องการอะไร คนพวกนี้มักทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสนองตามความต้องการของฉัน จนกระทั่งความรู้มันผ่านไปยังมือของพวกเธอทั้งหลาย ทั้งนี้เนื่องจากว่า ภรรยาแลเห็นเงินที่มันอยู่แค่มือเอื้อม เนื่องจากถ้าทำสำเร็จก็คงเอาไปทำที่บ้านเพื่อขายเอาเงิน ในขณะที่สังคมกำลังตื่นตัวในเรื่องนี้ ภายในจิตใต้สำนึกของฉันนั้นคิดแต่เพียงว่า ถ้าเราทำสำเร็จก็คงจะนำออกเปิดเผยให้เพื่อนมนุษย์สามารถทำได้ ในช่วงนั้นถึงขนาดกลัวเชื้อราจะเข้าขวด กระทั่งเอาเมล็ดกล้วยไม้ซึ่งเป็นผงละเอียดไปใส่ในหลอดฉีดยาอันใหญ่ แล้วใช้สารละลายล้างเชื้อรา เพื่อฉีดเข้าไปในปากขวด รวมความแล้วคนที่คิดจะเพาะเมล็ดกล้วยไม้ในสมัยนั้น ต่างก็กลัวเชื้อรากันนักกันหนา จนไม่อาจพูดอะไรออกมาได้สำเร็จ นอกจากนั้นต่อมาภายหลัง หลายคนรู้ว่าฉันสามารถเพาะเมล็ดกล้วยไม้ลงในขวด โดยเฉพาะเชื้อราไม่เข้าไปขึ้นแข่งกับเมล็ดกล้วยไม้ภายในขวด นอกจากนั้นยังรู้ว่า […]

By admin | บทความ
DETAIL

บ้านนี้เมืองนี้ศรัทธาบารมีหายไปไหน

เธอที่รักทุกคน ขณะนี้ฉันจำใจต้องเขียนเรื่องศรัทธาบารมีว่ามันหายไปไหน ถ้าจะบอกถึงสัจธรรมให้เธอรู้ว่า ชาติใดก็ตามที่ขาดคนซึ่งมีประชาชนให้ความศรัทธาและเคารพรักด้วยใจจริง ชาตินั้นย่อมนำไปสู่การล่มสลายในที่สุด บัดนี้กำลังจะใกล้วันผู้สูงอายุ ฉันได้ยินมาว่าผู้สูงอายุนั้นมีเงินช่วยเหลือ ฉันรู้สึกภูมิใจว่าตนไม่ใช่ผู้สูงอายุจึงไม่เคยรู้เคยเห็นอะไรทั้งสิ้น เมื่อปีที่ผ่านมากระทรวงราชการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุได้นำเอาข้อเขียนของฉัน เรื่อง “ฉันไม่มีวัย ฉันมีแต่ใจ” ไปตีพิมพ์เผยแพร่ ทั้งนี้เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาฉันไม่เคยสนใจเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องเงินๆ ทองๆ อะไรทั้งนั้น เมื่อไม่สนใจเรื่องเงินเรื่องทองก็ย่อมไม่สนใจเรื่องอำนาจวาสนา น้ำท่วมครั้งที่แล้วแม้บ้านจะพัง พื้นบ้านเป็นรูโหว่หลายแห่ง แต่โทรทัศน์ไปขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ฉันก็ชี้ให้ดูว่า ตัวเองนอนอยู่ตรงไหนโดยไม่รู้สึกรังเกียจหรือถือสาอะไรทั้งนั้น เมื่อฉันไม่รู้สึกอับอายขายหน้าก็ย่อมไม่รู้สึกโอ้อวดตัวเองร่วมด้วย ทั้งนี้เพราะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ ฉันต้องขอขอบคุณผู้ที่สงสารช่วยเข้าไปซ่อมแซมบ้านให้โดยไม่ต้องขอร้อง ซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นองค์กรอะไรและอยู่ที่ไหน บางครั้งก็ได้ยินคนพูดว่า การที่มาทำอะไรให้ฉันก็เพื่อหวังเรื่องเงินเรื่องทอง ฉันฟังแล้วรู้สึกตลกขบขัน เพราะการมาหวังเงินจากฉันมันก็เหมือน “หวังเลือดจากปู” ซึ่งเป็นคำกล่าวของคนโบราณ น้ำท่วมครั้งที่แล้วจึงมีแต่สิ่งที่ดีมันผุดขึ้นมาลอยอยู่เหนือน้ำให้คนได้รู้ข้อเท็จจริงว่าอะไรเป็นอะไร แม้แต่การซ่อมแซมบ้านซึ่งฉันจะต้องไปอยู่ที่อื่น ก็ยังมีคนต้อนรับให้ไปพักอาศัย ในเมื่อทุกอย่างมันมีสองด้าน อีกทั้งสัจธรรมยังชี้ไว้ให้เห็นว่า “เมื่อด้านหนึ่งขึ้น อีกด้านหนึ่งก็ต้องลง” ดังจะเห็นได้ว่า “เมื่อคนเขาให้เราด้วยความศรัทธา เราก็ต้องรู้สึกเกรงใจเขาเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่ไม่ได้คิดร้ายต่อผู้อื่น” หวนกลับไปนึกถึงอดีตเพราะฉันไม่สนใจเก็บทรัพย์สินเงินทอง อีกทั้งยังไม่ได้หวังอำนาจวาสนา จากผลงานที่ฉันนำไปสู่การสร้างสรรค์ ถ้ามองเห็นได้ลึกก็จะรู้ว่า ตัวฉันเองชอบเก็บสิ่งที่มันตกหล่นอยู่บนพื้นดินมาสร้างงานอยู่เสมอ ฉันจึงรู้คุณค่าของสิ่งที่มันอยู่พื้นดิน เพราะเกิดมาแล้วก็ต้องอยู่บนพื้นดิน ตายไปแล้วก็ต้องลงไปอยู่ในพื้นดินเช่นเดียวกัน ฉันจึงนิยมที่จะเก็บของตกหล่นอยู่บนพื้นดินมาคิดประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สู่เพื่อนมนุษย์ ซึ่งเรื่องนี้ย่อมไม่ทำให้สังคมและชาติบ้านเมืองจำต้องตกเป็นหนี้สินคนชาติอื่น แม้ขณะที่นั่งเขียนเรื่องนี้ ฉันก็มาอาศัยเขาอยู่ไปพลางๆ […]

By admin | บทความ
DETAIL

อาเซียนกับสยามประเทศที่กำลังจะสิ้นลมหายใจ

เธอที่รักของฉัน ขณะนี้ชื่ออาเซียนกำลังส่งกลิ่นหมอฟุ้งสำหรับแมลงวันที่ชอบกลิ่นเหม็น ฉันหวนกลับไปนึกถึงช่วงปี พ.ศ.2513 ซึ่งในปีนั้นแม้ฉันเป็นมดตัวเล็กๆ ก็ได้ถูกรับเชิญให้ไปนั่งบนเวทีของโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งผู้ที่มาเชิญฉันไปคุยในวันนั้นก็คือ ชายคนหนึ่งซึ่งชีวิตผ่านประสบการณ์เป็นทูตอยู่ในประเทศต่างๆ ของภูมิภาคยุโรปตะวันตกมานานหลายปี เรื่องราวที่คุยกันในวันนั้นก็คือ การคิดจะจัดตั้งองค์กรที่เรียกกันว่า “อาเซียน” ฉันรับฟังแล้วภายในจิตใต้สำนึกก็หยั่งรู้ความจริงได้ว่า คงจะคิดเอาแบบของการจัดตั้ง “ยูโร” มาใช้ในประเทศเขตร้อนซึ่งมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ความจริงแล้วการคิดแบบนี้มันทำให้ประเทศเราซึ่งเป็นเมืองร้อนของโลกและมีทรัพยากรธรรมชาติอย่างหลากหลาย การเอาอย่างประเทศในเขตอบอุ่นมันก็เหมือนกันกับคนตัวเล็กๆ มีความรู้สึกอวดดีเอาไหล่ไปกระทบกับยักษ์ใหญ่ซึ่งไม่เคยมีความสำเร็จ คงมีแต่พังกับพังลูกเดียว แม้แต่การคิดเอาสถาบันการศึกษากับสถานีวิจัยมาไว้ด้วยกันในการเกษตร ไม่ว่าที่บางเขนหรือที่เชียงใหม่เราก็เคยแตกแยกกันมาแล้ว ฉันนึกถึงน้ำท่วมครั้งที่แล้ว ก่อนที่จะขนของย้ายหนีน้ำ ฉันได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฝากไว้ว่า “จะให้น้ำมันท่วมอีกสักกี่ครั้งเราถึงจะจดจำได้อย่างลึกซึ้ง” อนึ่ง ถ้าใครได้อ่านหนังสือที่ชื่อว่า “อนิจจาการจัดการศึกษาไทย” ที่ฉันเขียนฝากไว้เมื่อไม่นานมากนักร่วม 10 ปีมาได้ ถ้าใครมีหนังสือเล่มนี้เก็บไว้ขอให้เอาออกมาอ่านทบทวนดูอีกครั้ง เพราะหลักพุทธธรรมท่านได้ชี้ไว้ว่า “การปฏิบัติธรรมนั้นขอให้รู้จักทบทวนตนเองเพื่อจะได้มีสติสัมปชัญญะ แต่เรากลับให้ครูมาประเมินเด็กซึ่งมันผิดกับกฎเกณฑ์ของมนุษย์ ฉันเกิดมาจนกระทั่ง 90 กว่าปีแล้ว ฉันรู้จักคำว่าประเมินตนเองมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้” นี่แหละวิธีการจัดการศึกษาเพื่อให้ทุกคนเรียนรู้จากใจตนเอง แต่เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่กลับลืมตัวเพราะคิดว่าสิ่งที่อยู่ในใจเรานั้นมันอยู่ที่คนอื่นโดยเฉพาะเอาไปฝากไว้กับผู้มีอำนาจ ซึ่งสมัยนี้คนมีอำนาจนั้นมีมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งไม่รู้ว่า “ศรัทธา” นั้นมันคืออะไรและมีรากฐานอยู่ที่ไหน จนกระทั่งเมื่อมองเด็กครั้งใดก็อดคิดไม่ได้ว่าการที่ผู้ใหญ่มุ่งพัฒนาเด็กนั้นมันถูกแล้วหรือโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาตนเอง แล้วการที่ พ.ร.บ. ของสถาบันการศึกษาเขียนไว้ว่าจะพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์นั้น ในทางปฏิบัติมันจริงหรือเปล่า ขอให้หวนกลับมาดูตัวเอง อย่างที่โบราณเขาพูดไว้ว่า “ถ้ามองไม่เห็นตัวเองก็ขอให้ส่องกระจกแล้วชะโงกดูเงา” เมื่อไม่นานมานี้มีการปรับเปลี่ยนฝ่าบริหารประเทศใหม่ ได้มีบทความเรื่อง […]

By admin | บทความ
DETAIL

ฉันสร้างศัตรูเอาไว้ใช้ต่อสู้กับตัวเอง

การเรียนรู้ให้ถึงความจริง(ชีวิตกับกล้วยไม้) ต้องกล้าสู้ทั้งสองด้าน ตอนที่ 2) เนื่องจากรากฐานจิตใจของฉันมีอิสรภาพมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กทำให้รู้สึกว่า ถ้าเราสามารถรักษาอิสรภาพซึ่งเป็นของจริงสำหรับใจเราเองเอาไว้ในอนาคต เราคงมีความสุข ดังนั้นต่อมาฉันจึงก้าวเข้าไปสู่การค้าขายกล้วยไม้ เพราะรู้สึกว่าการเรียนรู้จากภายนอกนั้นมันยังขาดความสมบูรณ์ครบถ้วน ยิ่งขาดความรู้สิ่งที่มันอยู่ภายในด้วยแล้ว ฉันถือว่ามันไม่ได้สร้างความเจริญเติบโตให้กับรากฐานตัวเอง กับอีกส่วนหนึ่งก็คือถ้าเราทำการค้ากล้วยไม้เราจะได้ทุนรอนมาใช้จ่ายในการส่งเสริมเผยแพร่ความรู้ หลังจากการนำปฏิบัติจึงพบว่ามันจริงทุกอย่าง พอเริ่มต้นค้าขายก็เกิดศัตรู โดยเฉพาะผู้ที่ทำการค้าอยู่ก่อนมีแนวโน้มที่รู้สึกว่า ฉันเป็นคู่แข่งในด้านผลประโยชน์ของพวกเขาจึงมักแอบทำร้ายฉันด้านหลังอยู่เสมอ ฉันจึงมักเอาชนะด้วยความดี ไม่ว่าจะประชุมวางแผนอะไรต่อมิอะไรฉันจะบอกให้อีกด้านหนึ่งมาร่วมประชุมด้วย ครั้นเสร็จการประชุมแล้วแทบทุกเรื่องถูกแอบนำไปเผยแพร่ในด้านตรงกันข้ามกับความจริง ซึ่งการทำแบบนี้มันสะท้อนผลให้ฉันถูกคนอื่นมองในแง่ร้าย แถมในด้านราชการก็มองในแง่ร้ายอยู่แล้วเพราะเข้าใจผิดคิดว่ากล้วยไม้เป็นพืชทำลายเศรษฐกิจ ซึ่งคนจำพวกนี้ไม่ได้มองผ่านลงไปให้ถึงมนุษย์ ถ้ามองถึงมนุษย์ก็ควรรู้ว่ากล้วยไม้ไม่ได้ทำลายเศรษฐกิจแต่คนเป็นผู้ทำลาย ถ้าสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคนได้ก็ควรจะก้าวเข้าไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ไม่ยาก เป็นอันว่า ตัวฉันเองกำลังตกอยู่ในสภาพที่ยืนอยู่ท่ามกลางศัตรูรอบด้าน ไหนจะราชการ ไหนจะกลุ่มพ่อค้าหาผลประโยชน์ ไหนจะถูกคนขาดความเชื่อถือเพราะถูกกล่าวหาว่าฉันทำเพื่อตัวเอง เป็นอันว่าฉันสร้างศัตรูรอบด้านซึ่งถ้าไม่แข็งจริงก็คงไม่อาจพิสูจน์ความจริงให้ทุกคนเห็นได้ยาก ยังมีปัญหาห้อยท้ายมาอีก เพราะในครอบครัวก็มองว่าฉันขายกล้วยไม้ได้แต่ทำไมจึงไม่ส่งเงินให้เขา เพราะไม่รู้ว่าความจริงแล้วฉันไม่ได้หาเงินเพื่อการค้าแต่ทำเพื่อการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นสิ่งสมมติเท่านั้น ครั้นเมื่อกำลังกอบกู้สิ่งต่างๆ ให้แก่ชาติบ้านเมืองซึ่งตัวฉันเองกำลังมองเห็นช่องทางในการผสมพันธุ์กล้วยไม้เพื่อสร้างพลังต่อดอกให้กับประเทศ ซึ่งตัวฉันเองจะต้องใช้พันธุ์กล้วยไม้ข้ามทวีปคือ นำเอากล้วยไม้หวายลูกผสมของฮาวายมาผสมกับหวายพันธุ์ผสมของหวายยุโรปไม่เช่นนั้นแล้วคงเอาชนะข้อต่อรองของต่างประเทศไม่สำเร็จ ทั้งนี้เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็เล่นเกมส์ที่เรียกกันว่า “โดมิโน”โดยเฉพาะแผนการผสมพันธุ์หวายลูกผสมซึ่งฉันจะต้องสั่งซื้อหวายลูกผสมของฮาวายซึ่งขายในราคา 2 ลำเล็กๆ ถึง 275 เหรียญสหรัฐ และในขณะนั้นตัวฉันเองก็มีเงินเดือนเพียง 1,500 บาท ช่วงที่ฉันยังทำงานอยู่แม่โจ้ ราชการได้มอบให้ฉันทำงานวิจัยเกี่ยวกับข้าว พืชผัก ยาสูบ และไม้ผล ส่วนกล้วยไม้นั้นมันไม่มีอยู่ในจิตวิญญาณของราชการ เพราะยังคงต่อต้านโดยกล่าวหาว่า กล้วยไม้เป็นของฟุ่มเฟือย […]

By admin | บทความ
DETAIL

วิถีการเรียนรู้ภายในจิตวิญญาณของฉัน

การเรียนรู้ให้ถึงความจริง(ชีวิตกับกล้วยไม้) ต้องกล้าสู้ทั้งสองด้าน (ตอนสุดท้าย) หวนกลับไปนึกถึงช่วงซึ่งพ่อได้เลี้ยงฉันมาแต่เล็กแต่น้อยให้เป็นคนมีนิสัยอดทน อีกทั้งยังสามารถต่อสู้กับกิเลสที่มันอยู่ในใจตนเองได้อย่างเข้มแข็ง ดังนั้นต่อมาภายหลังไม่ว่าชีวิตจะต้องลำบากมากแค่ไหนฉันก็รู้สึกว่ามันท้าทายที่จะต่อสู้กับเงื่อนไขที่มันอยู่ในใจตัวเราเองให้ได้ อีกทั้งยังสามารถรู้ทันต่ออิทธิพลของสิ่งซึ่งอยู่ภายนอก ดังนั้น แม้แต่ครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนฉันก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เพราะภายในจิตใต้สำนึกฉันรำลึกได้แล้วว่า ครูที่ดีนั้นอยู่ในใจเราเองนี่แหละ ฉันเริ่มหนีโรงเรียนตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไหร่ แม้แต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม 1 แล้วครูให้ข้ามชั้นเพราะเห็นว่าเรียนเก่งฉันก็ยังรู้สึกไม่พอใจ ดังจะเห็นได้ว่า ฉันเรียนมัธยมบริบูรณ์ 3 ปีซ้อนๆ โดยไม่ยอมขึ้นชั้น ดังจะพบบทความเรื่องหนึ่งซึ่งเขียนฝากไว้ว่า “ฉันไม่ยอมขึ้นสู่ที่สอง” เมื่อปี พ.ศ.2486 มีครูมาจากสหรัฐอเมริกามาสอนให้เรียนวิชาสถิติเป็นครั้งแรก แต่ฉันก็นั่งหลับเพราะรู้สึกไม่ชอบใจจนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2491 ฉันกลับมาเรียนวิชานี้ด้วยตัวเองโดยไม่ยอมให้มีครูสอน ฉันรู้สึกประหลาดใจมากเพราะหลายคนบ่นว่ามันยากแสนยาก แต่นอกจากเรียนเองได้แล้วยังถูกพิจารณาให้มาเป็นครูสอนวิชานี้ต่อมาอีก 5 ปี การสอนวิชาสถิติก็ได้ขยายขอบเขตออกไปกลายเป็นสำนักงานสถิติแห่งชาติ อีกทั้งยังมีการขยายต่อมาถึงสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ครูของฉันตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกได้กล่าวไว้ว่า“เธอสอนเก่งกว่าฉันจึงขอให้เอาไปสอนเองทั้งหมด” ฉันถูกมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์คัดให้ไปเป็นครูสังเกตการณ์ที่สอนวิชานี้ที่สหรัฐอเมริกา แถมยังเขียนตำราคู่มือการสอนช่วยให้ 5 คนที่ไปศึกษาวิชานี้ผ่านได้สำเร็จ ทั้งนี้เพราะเหตุว่า พอฉันเห็นสูตรยาวๆ แล้วสามารถอธิบายได้จนถึงรากเหง้าของมัน ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปได้ง่ายอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ที่ฉันกล่าวมาแล้วนี้เองไม่ใช่คุยโวหรืออวดตัวเอง หากใครอยู่ใน 5 คนนั้นมาถึงบัดนี้น่าจะรำลึกได้เองว่าช่วงนั้นมันเกิดอะไรขึ้น คนรุ่นนี้หลายคนคงรู้จักชื่อเสียงของศาสตราจารย์ Gertrude Cox เธอเป็นสุภาพสตรีที่เข้ามาปูพื้นฐานการเรียนการสอนวิชาสถิติให้แก่ประเทศไทย เมื่อเธอสิ้นอายุไขมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ได้มาขอให้ฉันไปกล่าวไว้อาลัยภายในห้องประชุมตึกอารักขาข้าวที่ตึกเกษตรกลางบางเขนเก่า ค.ศ.2013 มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์จะจัดงานฉลองครบรอบ 100 […]

By admin | บทความ
DETAIL

การเรียนรู้ให้ถึงความจริง(ชีวิตกับกล้วยไม้) ต้องกล้าสู้ทั้งสองด้าน (ตอนที่ 1)

               สัจธรรมของทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้าน ด้านนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเป็นเพียงสิ่งสมมติเท่านั้น ส่วนด้านในซึ่งหมายถึงรากฐานภายในจิตใต้สำนึกของแต่ละคนคือความจริงของชีวิตที่ควรรักษาไว้ให้มั่นคงที่สุด แม้แต่ด้านนอกก็ยังมีสองด้านซึ่งแต่ละคนควรกล้าที่จะก้าวเข้าไปเรียนรู้ด้านใน แทนที่จะเอาแต่ด้านนอกแล้วโทษกันไปโทษกันมาบนพื้นฐานที่มันหลอกตัวเอง ถ้าฉันจะใช้กล้วยไม้เป็น “สื่อสมมติ”ที่จะเรียนรู้ให้ถึงความจริง ตัวฉันเองต้องกล้าปลอมตัวเข้าไปเป็นคนขายกล้วยไม้ ซึ่งเรื่องนี้เราจะต้องมีความเข้มแข็งหากมีคนพูดว่าฉันเป็นพ่อค้าขายกล้วยไม้ แต่แท้จริงแล้วฉันต้องการรู้ปัญหาเรื่องคนมากกว่า ดังนั้นฉันจึงต้องพยายามใช้ความอดทนให้มากที่สุด เธอรู้หรือเปล่าว่าก่อนที่ฉันจะรู้เล่ห์เหลี่ยมในการค้ากล้วยไม้กับคนพวกนี้ ฉันจะต้องกล้าเข้าไปยืนอยู่ด้านในและยอมให้คนพวกนี้ตำหนิติเตียน บางครั้งก็หนัก บางครั้งก็เบา แต่ใจฉันเองมีความมั่นคงอยู่กับสิ่งซึ่งตนต้องการเพื่อนำมาใช้เป็นความรู้สู่ประชาชน ฉันเริ่มคิดค้าขายกล้วยไม้ตั้งแต่อายุเพียง 20 ปี ซึ่งขณะนั้นความคาดฝันของคนทั่วไปกำลังคิดว่า ถ้าปลูกกล้วยไม้ขายแล้วจะรวย ฉันก็เริ่มปลูกกล้วยไม้อีกทั้งคิดจะขายด้วย แต่ภายในรากฐานจิตใจนั้นเรื่องความรวยความจนไม่เคยมีในโลกใบนี้หากยังมั่นคงอยู่กับสัจธรรม ความใฝ่ฝันของฉันมันหยั่งรากฐานลงลึกชนิดที่ถอนออกได้ยาก ดังนั้นหลังเรียนจบหลักสูตร 5 ปีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อปี พ.ศ.2490 บังเอิญในปีนั้นมีคนเรียนจบเพียง 2 คน เพราะขาดประสบการณ์ในการทำวิทยานิพนธ์ และหนึ่งในสองคนก็คือตัวฉันเอง แถมยังจบสาขาดินและปุ๋ยซึ่งเป็นคนเดียวและเป็นคนแรกของเมืองไทย ในช่วงนั้นคนเป็นครูอาจารย์สอนก็ยืมตัวมาจากกระทรวง ทบวง กรม เมื่อมีคนจบหลักสูตรคนแรกมหาวิทยาลัยก็อยากได้ถึงกับต่อรองกันว่า ถ้าอยู่มหาวิทยาลัยก็จะมีตำแหน่งและอัตรารองรับ แต่ถ้าออกไปอยู่ในชนบทก็จะเป็นเพียงลูกจ้างแบบคนงาน แต่เป็นเพราะรากฐานของฉันมันลึกซึ้งและมั่นคง ฉันจึงตอบสวนกลับไปว่า “ต้องการไป” ความจริงแล้วความรู้สึกนึกคิดที่จะใช้กล้วยไม้เป็นสื่อการเรียนรู้เรื่องราวของมนุษย์นั้นมันไม่ได้สั่นคลอน หรือสูญหายไปไหนจึงทำให้ฉันได้ไปอยู่เชียงใหม่สมดังความปรารถนา เขาว่าเมืองเชียงใหม่นั้นมีกล้วยไม้สวยๆ งามๆ อย่างหลากหลาย ในชั้นแรกทำให้ตัวฉันเองมีโอกาสเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมชนบท อันควรถือว่าคือพื้นฐานสำคัญที่สุดสำหรับความมั่นคงทั้งของครอบครัวและชาติบ้านเมือง ฉันได้มีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมบทแรกของชีวิตและสังคม โดยเฉพาะชุมชนท้องถิ่นจากของจริงที่สะท้อนออกมาปรากฏว่า “ชุมชนท้องถิ่นนั้น ไม่ว่าจะไปตั้งรกรากอยู่ที่ไหนก็ตาม […]

By admin | บทความ
DETAIL

เพราะคนส่วนใหญ่เห็นหน้าฉันเป็นกล้วยไม้ ฉันจึงต้องหันมาจับงานพัฒนาการศึกษาทางเลือก

            เธอที่รักของฉัน หวนกลับไปนึกถึงตั้งแต่ช่วงที่ฉันมีอายุเพียง 10 ขวบ ฉันได้พบกับกลุ่มบุคคลที่มีเงินกลุ่มหนึ่ง นำเอากล้วยไม้มาปลูกเล่นโดยใช้กล้วยไม้เป็นเครื่องมือแข่งความร่ำรวยและความมีหน้ามีตา แถมยังนำกล้วยไม้ราคาแพงๆ มาใช้เป็นเครื่องมือดูถูกเด็กและชาวนาชาวไร่ว่าเป็นคนยากจนจึงไม่สมควรจะปลูกกล้วยไม้ ฉันเริ่มรู้สึกว่า สังคมนี้มันไม่ยุติธรรมและทำให้ไม่น่าอยู่ จึงไม่อาจนิ่งดูดาย จากนั้นเป็นต้นมาฉันได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ชีวิตนี้ตนจะต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามและเงื่อนไขดังกล่าวมันได้เข้าไปอยู่ภายในจิตใต้สำนึกของฉัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติทุกสิ่งทุกอย่าง แต่คนไทยทั่วไปกลับมีความรู้สึกติดอยู่กับเปลือกนอกจึงคิดได้แต่เพียงว่า ฉันสอนให้คนทั่วไปปลูกกล้วยไม้เป็นและผสมกล้วยไม้เพื่อการค้าขายได้เท่านั้น ซึ่งภาพสะท้อนดังกล่าว ครั้งใดที่ฉันแลเห็น มันก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจ ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มพลังในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาที่การจัดการศึกษา นี่แหละ ที่เป็นเหตุให้ตัวฉันเองไม่ว่าจะเดินทางไปไหน คนทั่วไปจึงมักเห็นหน้าฉันเป็นอาจารย์กล้วยไม้อย่างเดียว บ้างก็ถามว่า “ที่บ้านของท่านอาจารย์คงมีกล้วยไม้สวยๆ งามๆ เต็มไปหมด”จนกระทั่งฉันต้องตอบสวนกลับไปว่า “บ้านฉันคือแผ่นดินไทยทั้งประเทศ” ภาพสะท้อนดังกล่าวได้ทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังกับการจัดการศึกษาของไทยเท่าที่ผ่านพ้นมาแล้วเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะสิ่งดังกล่าวได้บอกให้ฉันรู้ความจริงว่า คนในสังคมไทยส่วนใหญ่ขาดคุณธรรมและจริยธรรมอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่รักที่จะใช้ชีวิตติดดินให้เป็นธรรมชาติ เมื่อปฏิเสธการใช้ชีวิตติดดินก็ย่อมรังเกียจพื้นดินซึ่งเป็นถิ่นเกิดของตัวเอง หากความจริงเป็นเช่นนี้ก็คงไม่อาจรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ให้ยั่งยืนอยู่ได้ ดังนั้นคงต้องใช้ศิลปะในการพูดรวมทั้งการปฏิบัติที่สะท้อนให้คนพวกนี้คิดได้เอง อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อปี ค.ศ.2000 ได้มีการจัดงานฉลองกันในประเทศต่างๆ อย่างน้อย 3 –4 ประเทศรวมทั้งประเทศญี่ปุ่นซึ่งทำการสำรวจโดยใช้เทคโนโลยี เพื่อต้องการทราบว่าใครจะเป็นผู้ปาฐกถาเรื่อง “Man and Nature” ได้ดีที่สุด ในที่สุดผลการสำรวจมันก็มาตกลงที่ตัวฉันเอง ฉันจึงได้รับเชิญให้ไปพูดเรื่องนี้ในงาน AIPH ซึ่งจัดขึ้นในต้นเดือนเมษายนโดยมีตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นรวม 5 […]

By admin | บทความ
DETAIL

คืนสู่ธรรมชาติซิเธอที่รัก

เธอเพื่อนรักของฉัน ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น เรามนุษย์ทุกคนได้รับบทเรียนจากครูผู้สอนให้เรามีสติสัมปชัญญะ เพราะในอดีตเราได้ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างจากธรรมชาติเกินตัวไปมาก และในที่สุดมันก็เกิดสภาวะที่หวนกลับมาทวงหนี้จากตัวเราเอง ทั้งนี้เพราะภายในรากฐานจิตใจขาดสมดุล อันหมายถึงความรู้สึกภายในจิตใต้สำนึก ดังจะเห็นได้ว่า ไหนจะเตาปรมาณูระเบิดที่ญี่ปุ่น ไหนจะแผ่นดินไหวที่พม่า รวมทั้งน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่กรุงเทพฯ และคงมีวิกฤตอื่นๆ ติดตามมาอีก นี่แหละที่เขาเรียกว่า “มนุษย์หนอมนุษย์ซึ่งธรรมชาติได้กำหนดมาให้เอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดวิถีการเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งอย่างเป็นวัฏจักร ไม่เช่นนั้นแล้วชีวิตบนโลกใบนี้ที่เกิดมาก็คงไม่มีการดับ แม้แต่ดาวนพเคราะห์ดวงอื่นซึ่งปรากฏอยู่ในสากลจักรวาล หลายดวงก็เคยมีชีวิตมาก่อน” ความจริงแล้วทุกชีวิตที่เกิดมาสู่โลกใบนี้ ล้วนเกิดมาจากจุลินทรีย์เล็กๆ ขนาดผงทุลีแต่ธรรมชาติก็ได้ให้ความเป็นธรรมโดยแบ่งออกเป็นสองสาย สายหนึ่งได้แก่ สัตว์รวมทั้งมนุษย์ ซึ่งมีจิตวิญญาณอยู่ในรากฐาน อีกทั้งยังมีการเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ส่วนอีกสายหนึ่งนั้นได้แก่ พืช อันหมายถึง ชีวิต ที่ไร้วิญญาณอีกทั้งยังเคลื่อนที่ไม่ได้ แต่เคลื่อนไหวไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ซึ่งด้านนี้ถูกนำไปใช้ประโยชน์เป็นอาหารและยารักษาโรคของสัตว์ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างเป็นวัฏจักร ทุกชีวิตที่ปรากฏเปลี่ยนแปลงอยู่บนโลกใบนี้ ย่อมอาศัยใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความจริงอยู่ในชีวิตประจำวัน ถ้ามนุษย์ไม่สามารถลดละกิเลสภายในรากฐานจิตใจตนเองให้มันลดน้อยลงได้ ก็เท่ากับการกำหนดพฤติกรรมทำลายล้างตัวเอง อันหมายถึง ความอกตัญญูต่อโลกใบนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมหลุดมือไปจากความรักที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของตัวเอง เธอที่รักของฉัน แผ่นดินที่เราคนไทยอาศัยใช้ในการดำเนินชีวิตทุกวันนี้ แท้จริงแล้วในอดีตก็เคยเป็นทะเลมาก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่ถูกขนานนามว่า “แหลมทองของไทย” แหลม หมายถึงแผ่นดินที่งอกยื่นลงมาสู่ตอนใต้ของท้องทะเลหลวง โดยเฉพาะแผ่นดินผืนนี้ยื่นลงไปสู่ตอนใต้ของประเทศจีน เพราะถูกกระแสน้ำชำระล้างเอาหน้าดินซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ซากพืช ซากสัตว์ รวมทั้งซากศพมนุษย์ ผสมกันกับเศษหินผุๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีจุลินทรีย์ที่ช่วยสลายตัวเพื่อใช้ทำการเกษตร เปิดโอกาสให้คนเชื้อสายจีนอพยพตามลงมาตั้งรกรากถิ่นฐาน จึงได้ชื่อว่า […]

By admin | บทความ
DETAIL
Page 2 of 912345...Last »
[สถาบันอาศรมศิลป์] : เลขที่ ๓๙๙   ซอยอนามัยงามเจริญ ๒๕  แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ๑๐๑๕๐
โทรศัพท์. ๐๒-๔๕๙-๓๒๒๖-๗, ๐๒-๘๖๗-๐๙๐๓-๔ โทรสาร. ต่อ ๑๓๙ E-Mail : [email protected]
[ศ.ระพี สาคริก]
บ้านเลขที่ 6 ถ.พหลโยธิน ซอย41 ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 Tel:025791028 email : [email protected]
[Professor. Rapee Sagarik] 6 Paholyothin Rd. Soi 41 Ladyao, Jatujak, Bangkok 10900 , Thailand
TOP