ธุรกิจต่างชาติกับการเป็นเจ้าของกล้วยไม้ไทย

เรียน คุณรุจิระ  บุนนาค (คอลัมน์กฎกติกาธุรกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า)

 

ผมได้รับข้อเขียนของคุณเรียบร้อยแล้วด้วยความขอบคุณอย่างยิ่ง  ขณะนี้ผมบอกกับหลายคนแล้วว่าตัวเองไม่ได้ทำเรื่องกล้วยไม้  แต่ทำเรื่องที่มันลึกซึ้งกว่ามาก

เรื่องธุรกิจต่างชาติกับการเป็นเจ้าของกล้วยไม้ไทย  ผมไม่ได้ห่วงมากไปกว่าความเป็นเจ้าของแผ่นดินไทย ซึ่งขณะนี้มีคนต่างชาติเข้ามาถือครองเต็มไปหมด

เวลานี้ผมมีอายุ 90 ปีแล้ว เมื่อหวนกลับไปนึกถึงช่วงปี พ.ศ. 2470 ซึ่งตัวผมเองมีอายุได้เพียง 5 ขวบ ผมได้เห็นคนต่างชาติเดินอยู่บนแผ่นดินไทยเพียง 2 คน เราเป็นเด็กก็วิ่งตามดูว่าเป็นคนประหลาด แถมหูยังได้ยินเสียง “ฟุดฟิดฟอไฟ”อีกด้วย ผมคิดว่าคำว่า “ฟุดฟิดฟอไฟ”มันมาจากตรงนี้เอง

ขณะนี้เราเก็บภาษีจากชาวนาชาวไร่มาบริหารประเทศ โดยจ้างเจ้าหน้าที่ส่งเสริมเกษตรมาทำงาน ซึ่งแต่ก่อนความรู้ที่ได้รับจากการลงทุนทำวิจัยเกษตรมันเข้าไปสู่ชาวนาชาวไร่ แต่เดี๋ยวนี้เงินภาษีที่เก็บจากราษฎรโดยเฉพาะชาวนาชาวไร่ มันไม่ได้กลับไปสร้างประโยชน์ให้ชาวนาชาวไร่เช่นแต่ก่อน

แทบทุกเที่ยวบิน แม้กระทั่งรถไฟ เราก็ได้เห็นคนต่างชาติขึ้นไปครองที่นั่ง ส่วนคนไทยนั้นยังนั่งอยู่ที่พื้น เช่นนี้แล้วเราไม่ตื่นลุกขึ้นมาคิดกันบ้าง เราจะเป็นคนไทยไปทำไมกัน

หรือว่าเราจะกลายเป็นม้าอารีตามนิทานอิสป ที่อุตส่าห์สละคอกม้าให้วัวมันเข้าไปเบียดอาศัยเมื่อฝนตก

นี่แหละที่มันยิ่งไปกว่าเรื่องกล้วยไม้

ผมเคยไปประชุมที่กระทรวงเกษตรฯ มีข้าราชการคนหนึ่งลุกขึ้นมาโต้เถียงว่า “ไหนล่ะหลักฐาน”

ผมตอบไปว่าอย่างไร รู้ไหมครับ  ผมตอบไปว่า “หลักฐานที่เป็นของจริงนั้น มันไม่ได้อยู่ที่แผ่นกระดาษกับตัวหนังสือ หากอยู่ที่การปฏิบัติในชีวิตจริง คุณลองไปกับผมบ้างไหมครับ!ลองไปใช้ชีวิตอยู่กับชาวนาชาวไร่ตาดำๆ ว่าแผ่นดินไทยเดี๋ยวนี้ มันกลายเป็นของคนต่างชาติไปกี่สิบล้านไร่แล้ว

เพียงแค่มาแต่งงานกับผู้หญิงไทยก็มีสิทธิเป็นเจ้าของแผ่นดินได้

ผมเสียใจที่เราเรียกแผ่นดินนี้ว่า “แหลมทองของไทย”ความจริงเพราะมันเป็นแหลมทอง ที่ใครๆ ก็อยากได้ไว้ทำการเกษตร

ผมเคยพูดหลายหนแล้วว่า การที่คนต่างชาติมาเอาไม้ผลของเมืองไทยไปปลูกนั้น มันไม่ใช่ของจริง ไม่ว่าจะเป็นกล้วย เป็นอ้อย พันธุ์มะละกอ ชมพู่ มะม่วงพันธุ์ต่างๆ เขาไม่ได้เอาไปปลูกเพื่อเก็บผล แต่เอาไปปลูกให้คนของเขาดู

หลังจากคนของเขารู้จักแล้ว ก็จะอพยพเข้ามาปลูกในเมืองไทย  ผมขออนุญาตพูดตามตรงว่า คนไทยทั้งหลายครับ ขอให้รู้จักฉลาดและเฉลียวบ้าง เพื่อให้บ้านเมืองอยู่ได้อย่างอิสรเสรี

ภายในภาพรวมของโลกใบนี้ หากมองที่การเกษตร เราน่าจะรู้ว่าทุกสิ่งมันมีสองด้านเสมอ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการเกษตรของโลก แม้ด้านหนึ่งจะมีน้ำมันราคาแพงๆ แต่เราก็ดื่มน้ำมันไม่ได้ ในเมื่อตัวเราเองยังเป็นคน จึงต้องกินข้าวเป็นอาหาร ขอให้สังเกตดูก็แล้วกันว่า ประเทศที่มีน้ำมันมากมาย แม้ขายน้ำมันได้เงินเยอะแยะ แต่ถ้าไม่ลอบมาซื้อข้าวกินเป็นอาหารแล้วจะอยู่ได้อย่างไร  ดังนั้น ขณะนี้ประเทศที่มีน้ำมันมากๆ ก็ต้องใช้เล่ห์กลเข้ามาซื้อแผ่นดินไทยเพื่อปลูกข้าวกินเป็นอาหาร ถ้าคนไทยไม่ยอมขายให้ โดยเฉพาะการขายที่ดินทำกินมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่มีแผ่นดินจะอยู่เราก็ต้องสิ้นชาติ

เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนที่รักแผ่นดินถิ่นเกิด คอยจับตาดูและพยายามเข้มแข็งเข้าไว้  ไม่เช่นนั้นเราคงต้องสิ้นชาติอย่างแน่นอน

ขอบคุณครับ สำหรับคนไทยทุกคนที่สนใจปกป้องบ้านเมืองของเรา

 

5 มกราคม 2555

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *