Blog

เรามาปรองดองกันดีไหม

ขณะนี้ บ้านเมืองกำลังเกิดความระส่ำระสายอย่างหนัก ถ้าคนไทยส่วนใหญ่นำเอาคำปรามาสที่มักได้ยินกันมาแต่อดีตว่า “คนไทยลืมง่าย คนไทยดูถูกของเล็ก และคนไทยมักไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่แล้ว ฯลฯ” ก็น่าจะสำนึกได้ว่า ในอดีตที่ผ่านพ้นมา เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากนั้นก็ยุบไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ ความจริง เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเงื่อนปมที่มีมันผุดขึ้นมาท่ามกลางความระส่ำระสายของแผ่นดินไทย เรื่องนั้นก็คือ “การตั้งกรรมการสมานฉันท์” หลังจากนั้นก็เงียบหายไปเสมือนก้อนหินหล่นลงน้ำก้อนแล้วก้อนเล่า มาบัดนี้เกิดความคิดที่จะตั้งกรรมการปรองดองกันขึ้นมาอีก จนทำให้ต้องหวนกลับมาถามตัวเองว่า “มันเกิดอะไรขึ้นจากสิ่งซึ่งอยู่ใกล้ตัวเราเองภายในสังคมยุคนี้” นอกจากนั้นสิ่งดังกล่าวได้ทำให้ฉันหวนกลับไปคิดถึงคำปรารภในอดีตที่มักกล่าวว่า “ทำอะไรก็ตาม มักนำเอาความคิดที่จะตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาแทบทุกเรื่อง แสดงให้รู้ว่า ความรู้สึกที่ว่าการตั้งกรรมการไม่ได้นำไปสู่ผลสำเร็จเท่าที่ผ่านพ้นมาแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นนี้เป็นต้น” ความจริงแล้ว ตัวฉันเองได้เคยกล่าวย้ำฝากไว้แก่สังคมหลายครั้งหลายหนแล้วว่า “การแก้ปัญหา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าใช้หลักธรรม ย่อมนำไปสู่ผลสำเร็จได้ทุกเรื่อง” ที่กล่าวเช่นนี้ ฉันต้องขออนุญาตชี้แจงถึงเหตุและผลให้เข้าใจได้ถ่องแท้เสียก่อนว่า หลักธรรมไม่ใช่ของฉัน และก็ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากหมายถึง “ธรรมชาติที่มันอยู่ในรากฐานจิตใจเราทุกคน” ซึ่งเรื่องนี้หากใครมีสติสัมปชัญญะ หลังจากตระหนักถึงปัญหา ย่อมหวนกลับมาค้นหาความจริงจากธรรมชาติที่มีอยู่ในใจตนเอง ย่อมนำปฏิบัติมุ่งไปสู่ผลสำเร็จได้ทุกเรื่อง ความจริงแล้ว จิตใต้สำนึกของมนุษย์ทุกคน ถ้าเราดำรงชีวิตอยู่อย่างผู้รับผิดชอบต่อสังคม การนำปฏิบัติจากความจริงที่มันอยู่ในใจตนเอง ย่อมมุ่งไปสู่ผลสำเร็จได้เองอย่างเป็นธรรมชาติ แม้แต่ความหมายของคำว่า “ปรองดอง” ก็เช่นกัน เธอลองคิดดูก็แล้วกันว่า หากภายในวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเอง ถ้าเราพบว่าเพื่อนมนุษย์กำลังทะเลาะเบาะแว้งกัน หากเธอมีความรับผิดชอบต่อสังคม ตัวเธอจะนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไร […]

By admin | บทความ
DETAIL

กล้วยไม้ ศัตรูของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์จริงหรือเปล่า

ในอดีตเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ. 2470 หลายฝ่ายมองเห็นว่ากล้วยไม้คือศัตรูของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้มองเห็นคน คงถูกบดบังจากกิเลสตัวเองที่มองเห็นว่ากล้วยไม้เป็นพืชทำลายเศรษฐกิจของชาติ จนกระทั่งตัวฉันซึ่งมีวิญญาณการต่อสู้กับใจตนเองอย่างเข้มแข็งมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ คนหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งซึ่งทำลายเศรษฐกิจนั้นมันไม่ใช่กล้วยไม้ หากเกิดจากกิเลสที่มันอยู่ในใจมนุษย์ผู้มองมากกว่า ตัวฉันเองจึงลุกขึ้นมายืนหยัดต่อสู้อย่างผู้ทระนงองอาจ ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้เริ่มต้นยอมรับกระทั่งขอตัวฉันให้มาทำงานอยู่ในภาควิชาพืชกรรม (ชื่อในอดีตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2514) ในที่สุดตัวฉันเองก็ต้องมาพบกับความจริงอีกว่า แม้มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ที่เข้ามาตั้งสำนักงานท้องถิ่นอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการศึกษาสองสาขา คือแพทย์ศาสตร์และเกษตรศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านเกษตรศาสตร์ได้เน้นความสำคัญโดยถือว่าพืชไร่ดังเช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง รวมทั้งถั่วต่างๆ เป็นเป้าหมาย ซึ่งชั้นแรกก็ได้มาตั้งอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยมหิดล ครั้นถัดจากนั้นมาอีกไม่กี่ปีก็เปลี่ยนสถานที่ตั้งใหม่เพื่อเข้ามาอยู่ในบริเวณวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขน แถมยังประกาศตัวและใจเป็นศัตรูกับกล้วยไม้โดยนำเอามาเปรียบเทียบเปรียบเปรยเสมือนเป็นวัชพืชที่มีชื่อว่า “แดนดี้ ไลอ่อน” ทั้งนี้เพราะเหตุว่าในสหรัฐอเมริกาวัชพืชชนิดนี้ลงได้ไปขึ้นระบาดอยู่ในเรือกสวนไร่นาของคนอเมริกันแล้วก็จำเป็นต้องต่อสู้กับมันโดยลงมือปราบปรามอย่างหนัก “นี่แหละชีวิตฉันไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน จึงมักโชคดีเป็นส่วนใหญ่” ที่ฉันกล่าวว่า “โชคดี”นั้น หลายคนอาจสงสัยว่า เหตุใดฉันจึงพูดว่าตัวเองมีโชคดี ทั้งๆ ที่เข้าไปอยู่ที่ไหนก็มักมีแนวโน้มพบกับศัตรูมาตลอด ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่า เพราะศัตรูประเภทนี้ได้ช่วยให้ตัวเองเรียนรู้ธรรมะอย่างเป็นธรรมชาติ หลายคนอาจรู้สึกสงสัยต่อมาอีกว่า มันเป็นเพราะเหตุใดฉันจึงได้พูดออกมาแบบนี้ เธอไม่รู้หรอกหรือว่า ศัตรูที่มันสอนให้เรารู้สึกต่อสู้กับกิเลสที่มันอยู่ในใจตนเองนั้น ย่อมช่วยชำระล้างอคติภายในใจ เมื่อชำระล้างได้ก็ย่อมมองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงภายในใจตนเองได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ต่อไปนี้ ฉันจะเล่าเรื่องราวระหว่างตนกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ให้เธอรับทราบจากความรู้สึกที่น่าสนุกสนานหรือไม่ก็อาจทำให้เธอต้องคิดหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ …………………………………………………………………………….. ความจริงแล้ว ตัวฉันเองเป็นคนที่มีรากฐานจิตใจอิสระในระดับหนึ่งมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กซึ่งประเด็นนี้ได้ช่วยให้ฉันเป็นคนที่มีนิสัยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใดๆ จากภายนอกทั้งนั้น “เมื่อไม่เกรงกลัวอำนาจจากภายนอกก็ย่อมมองเห็นความสำคัญของอำนาจที่มันแฝงอยู่ในจิตใจตนเอง” ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันมักมีแนวโน้มเอาชนะใจตนเองด้วยความอดทนเข้มแข็งมาตลอด แม้แต่การเริ่มต้นจับงานเรื่องกล้วยไม้ ซึ่งแท้จริงแล้วหากจะพูกว่าฉันต่อสู้กับอิทธิพลภายนอก […]

DETAIL

กลับบ้านเราเถอะที่รัก

เธอที่รักทุกคน หลังจากได้อ่านพบชื่อบทความเรื่องนี้ว่า “กลับบ้านเราเถอะที่รัก” หลายคนคงสงสัยว่า บ้านของเราแต่ละคนนั้นมันอยู่ที่ไหนและมีความสำคัญอย่างไร จึงต้องกลับไปบ้านด้วยความรักความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ถ้าเธอเฉลียวใจสักนิดก็น่าจะเดาใจได้ว่า “เป็นเพราะฉันสนใจปัญหาที่อยู่ในรากฐานการจัดการศึกษา” ดังนั้นเรื่องนี้จะหมายความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากทุกคนที่เกิดในชนบทซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของคนทั้งชาติ หลังจากเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยจนกระทั่งจบแล้วก็ควรจะกลับไป สร้างงานใหม่ๆเพื่อความเจริญให้แก่บ้านเกิดของตน แม้คนที่เกิดในเมืองกรุงซึ่งควรตระหนักชัดอยู่เสมอว่า ชนบทนั้นคือพื้นฐานของคนทั้งชาติ ซึ่งชนบท โดยเฉพาะในระดับพื้นดิน ย่อมมีความสำคัญยิ่งสำหรับการเรียนรู้เพื่อความเป็นมนุษย์ของตัวเธอเองรวมทั้งสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติซึ่งเป็นถิ่นเกิดของเราทุกคน อนึ่ง หลังจากคำปรารภที่ฉันนำมากล่าวไว้ ณ โอกาสนี้ ถ้าเธอคนไหนได้อ่านแล้วโปรดอย่าพูดนะว่า “ในชนบทนั้นไม่มีใครเขาจ้างงานคนที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย จึงต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ” ซึ่งประเด็นนี้ถ้าเธอคนไหนมีความคิดอิสระช่วยให้มีจิตใต้สำนึกเป็นไทแก่ตนเอง แทนที่จะพูดเช่นนั้นคงกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันจะคิดสร้างงานใหม่ๆอย่างผู้กล้าหาญ” ทั้งนี้เนื่องจากเกิดจิตวิญญาณที่ตั้งมั่นอยู่กับสัจธรรมแล้วว่า “ถ้าตนยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่มีอิสรภาพ สิ่งใดที่ทำไม่ได้ฉันจะต้องทำให้ได้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าการเรียนในห้องเรียน” ความตั้งใจที่ได้กล่าวมานี้เปรียบเสมือน “การตั้งสัตย์ปฏิญาณฝากไว้ให้แก่จิตใต้สำนึกของตัวเองอย่างผู้กล้าหาญ เพราะรู้คุณค่าในการทำงานซึ่งมีผลสร้างความภูมิใจให้แก่ตนเอง อีกทั้งยังช่วยให้เข้าถึงการทำงานอย่างมีความสุข” ดังนั้น สำหรับคนที่ชอบอ้างว่า “เพราะไม่มีใครในชนบทจะมาจ้างให้ตนทำงาน ยิ่งเป็นคนที่มีปริญญาสูงๆจากมหาวิทยาลัย” ซึ่งบุคคลลักษณะนี้ เหมือนกับที่คนโบราณได้ปรามาศฝากเอาไว้ว่า “รอให้บุญหล่นทับ” ซึ่งบุคคลลักษณะนี้มักมีนิสัยอย่างที่เรียกกันว่า “นั่งงอมืองอเท้าเพราะความเกียจคร้านที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดคิดและเริ่มต้นสร้างงานใหม่ๆที่ไม่เหมือนใครอย่างท้าทาย” ซึ่งประเด็นนี้ การก้าวเข้าไปหาปัญหานานาชนิดและลงมือทำด้วยตัวเองนั้น ย่อมมีผลทำให้ตนจำต้องต่อสู้กับใจตัวเองอย่างผู้กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ควรจะมีผลยกระดับคุณค่าจิตใจของตนให้สูงยิ่งขึ้น ถ้าเธอสังเกตจากบทความที่ฉันเขียนฝากไว้แก่สังคมในอดีตแทบทุกเรื่องมักจะมีข้อความประโยคหนึ่งว่า “รู้สึกท้าทายที่จะนำปฏิบัติ…….” ดังนั้นการที่ฉันสนใจเขียนเรื่องราวต่างๆเพื่อหวังให้ตนมีโอกาสหยั่งรากฐานความรักลงสู่พื้นดินเพื่อการเรียนรู้สัจธรรมลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึงมีผลอำนวยประโยชน์ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในจิตใจตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้น การปฏิบัติดังกล่าวยังช่วยกระตุ้นให้คนที่ยังมีนิสัย “นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น” […]

By admin | บทความ
DETAIL

คุณธรรมกับการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า

แนวความคิดและคุณธรรมที่นำเสนอเพื่อการพิจารณาปฏิบัติลักษณะนี้ นอกจากกล้วยไม้ป่าแล้ว หากต้องการอนุรักษ์สิ่งใดก็ตาม น่าจะช่วยให้เตือนสติและมีผลทำให้ประสบผลสำเร็จอันพึงปรารถนาได้ทุกเรื่อง มนุษย์ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันบนผิวพื้นโลกใบนี้ ถ้าใช้คุณธรรมนำปฏิบัติระหว่างกันและกัน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างชีวิตที่ด้อยโอกาสกว่ากับฝ่ายที่เหนือกว่า บรรยากาศภายในโลกใบนี้ย่อมนำไปสู่ความสุขยิ่งกว่าเก่า อนึ่ง ฉันกล้ายืนยันหลักการที่จะกล่าวต่อไป เพราะตัวเองได้นำปฏิบัติโดยถือหลักเกณฑ์อันเป็นที่มาตลอดชีวิตอันยาวนาน จึงทำให้เชื่อมั่นได้อย่างปราศจากข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น จากความจริงระหว่างคุณธรรมกับการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า ยิ่งการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่มีความแตกต่างกัน ปกติมนุษย์กับมนุษย์ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันบนผิวพื้นโลกใบนี้ ทุกคนต่างก็ต้องการความสงบสุขด้วยกันทั้งนั้น แท้จริงแล้ว ความสุขที่อยู่บนพื้นฐานความจริง หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงความสุขซึ่งอยู่บนพื้นฐานความยั่งยืน การนำปฏิบัติต่อกันควรให้ความสำคัญแก่กันและกันโดยไม่คิดทำร้ายซึ่งกันและกันหากให้โอกาสในการเรียนรู้ระหว่างกันเป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะในยุคนี้ มนุษย์ฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่า มักนำเอาการอนุรักษ์มาอ้างเพื่อใช้โอกาสบังคับฝ่ายที่ด้อยโอกาสกว่าตน โดยเฉพาะประเทศในแถบร้อนของโลก เพื่อหวังผลประโยชน์ทางวัตถุ โดยที่คิดว่าคนอื่นจะไม่รู้เท่าทัน ดังนั้น ประเทศที่อยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรของโลกซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติอย่างหลากหลายภายในวิถีชีวิตของประชากรในประเทศนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพที่ยากไร้ แม้เพียรพยายามคิดแก้ไขปัญหาก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาหนักมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะเหตุว่า การใช้อำนาจแก้ไขปัญหาที่อ้างว่าต้องการอนุรักษ์ยังคงตกอยู่ในสภาพจากด้านบนลงมาสู่ด้านล่างเช่นเดียวกันกับทฤษฎีโดมิโน ความจริงแล้วถ้าใช้คุณธรรมและจริยธรรมเพื่อนำปฏิบัติจากความจริงที่อยู่ในใจตนเองโดยไม่ลืมไปว่า ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาสู่โลกใบนี้ แต่ละคนล้วนมีความรักอยู่ในรากฐานจิตวิญญาณตนเอง นอกจากนั้น การนำปฏิบัติระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ แม้มนุษย์กับต้นไม้ ล้วนมีหน้าที่พึ่งพาอาศัยระหว่างกันและกัน หากทุกชีวิตรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่หมุนวนเป็นวัฏจักรตามหลักธรรมชาติ ถ้ามีโอกาสดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระ ย่อมส่งผลช่วยให้มอบวิญญาณความรักให้แก่กันและกัน แม้มนุษย์กับกล้วยไม้ ถ้ามนุษย์ดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระ ย่อมได้รับประโยชน์จากกล้วยไม้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ด้านหนึ่งหมายถึงการได้รับประโยชน์ทางวัตถุ ส่วนอีกด้านหนึ่งย่อมช่วยทำหน้าที่อนุรักษ์พรรณไม้ซึ่งตนได้รับประโยชน์ทางวัตถุเอาไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในระยะยาว จึงไม่ทำให้พรรณไม้ที่ต้องการอนุรักษ์จำต้องประสบกับสภาวะสูญเสีย จึงสรุปได้ว่า การใช้อำนาจบังคับฝ่ายหนึ่งจากอีกด้านหนึ่งโดยอ้างว่าต้องการอนุรักษ์ ถ้าเป็นผู้ที่มีความฉลาดอีกทั้งเฉลียวใจ ก็น่าจะหยั่งรู้ความจริงได้ว่า คือการกีดกันผลประโยชน์จากฝ่ายหนึ่งซึ่งมีโอกาสอยู่เหนือกว่า […]

DETAIL

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย

เธอที่รักทุกคน ในช่วงนี้ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน มักมีผู้คนปรารภให้ได้ยินได้ฟังกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงปัญหาในสังคมไทย เหมือนกับสะกิดใจให้คนส่วนใหญ่บ่นว่าแย่ บางครั้งฉันก็นึกถึงสัจธรรมบทหนึ่งซึ่งกล่าวไว้ว่า “เมื่อมีสิ่งนี้ ก็ย่อมไม่มีสิ่งนั้น” จึงรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักมีรายงานที่ชวนให้รู้สึกได้ถึงความเพียรพยายามที่จะประกอบกรรมดีให้ปรากฏแก่สายตาของเพื่อนมนุษย์ทุกคน ฉันนึกถึงหลักธรรมบทหนึ่ง สิ่งนั้นก็คือ “ปฏิกิริยาตาชั่ง” ซึ่งมีสองด้าน ทั้งนี้“เมื่อด้านหนึ่งขึ้นอีกด้านหนึ่งก็ย่อมลง”เป็นธรรมดา ดังนั้นถ้าปรากฏการณ์อันเกิดจากการที่ด้านหนึ่งกำลังสับสนวุ่นวาย เราก็ควรมองเห็นโอกาสในการปฏิบัติและควรเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมที่อยู่ใกล้ชิดตัวที่สุดก็คือ การสร้างความเข้มแข็งในการเอาชนะใจตนเองให้ได้ อีกทั้งรู้ว่าถ้าสังคมไม่เกิดปัญหาหนัก เราก็ย่อมมองไม่เห็นปราชญ์ ความจริงแล้วประเด็นนี้มีตัวอย่างให้เห็นได้อย่างชัดเจน ดังเช่นประเทศอินเดียซึ่งมีปัญหาความยากจนอย่างหนักในระดับโลก เราถึงมีโอกาสพบกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้แต่มหาตมะคานธีก็เกิดในอินเดีย เรื่องนี้สอดคล้องกันกับวิถีการเปลี่ยนแปลงอันเป็นธรรมชาติของทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “หมุนวนเป็นวัฏจักร” ดังนั้นถ้าเหตุการณ์ต่างๆ ภายในโลกใบนี้มันทำลายชีวิตคนได้ทั้งหมดจะเหลืออะไรให้เกิดใหม่ได้สำเร็จ ดังนั้นผลจาการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยจึงต้องเหลือหนึ่ง แม้แต่พื้นฐานของวิชาการ “สถิติพยากรณ์” ยังต้องมีองศาความอิสระ (n-1) ผลการใช้สถิติพยากรณ์จึงสามารถทำนายอนาคตได้อย่างใกล้เคียง แม้แต่สภาพของปัญหาในสังคมไทยทุกวันนี้ที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนหนักมากยิ่งขึ้น วันหนึ่งเราก็คงได้ “คนขี่ม้าขาว”มาช่วยฟื้นฟูสังคมให้ดีขึ้นได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาคนจะเดือดร้อนถึงระดับหนึ่ง เราก็คงยังมองไม่เห็นปราชญ์จึงขอให้รอดูกันต่อไปและขอเรียนว่าอย่าได้ผิดหวังมากเกินเหตุเกินผล ทุกสิ่งทุกอย่างจึงควรจะอยู่ที่ตนเองเพื่อใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์เท่าที่ผ่านมาแล้วในอดีต บางครั้งมีคนเดือดร้อนเข้ามาหาฉัน ตัวฉันเองก็ได้ให้กำลังใจและชี้ให้เห็นความหวังถึงขนาดเขียนร้อยกรองบทหนึ่งฝากไว้ให้คิด ยามรุ่งแจ้ง แสงทอง เริ่มส่องฟ้า ดวงจันทรา ลาลับไป ในแสงสูรย์ สิ่งที่เคย เย็นช่ำ ร่ำจำรูญ พาให้สูญ ลับไป ในกัปกาล อนึ่ง ตามที่เคยกล่าวย้ำเอาไว้ว่า […]

By admin | บทความ
DETAIL

การจัดการศึกษากับการแบ่งชนชั้น

เมื่อหยิบยกเอาประเด็นการแบ่งชนชั้นมาพิจารณา ก็เหมือนกันกับเรื่องประชาธิปไตย ทั้งนี้เพราะเหตุว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศเขตร้อนหรืออีกนัยหนึ่งหากพูดอย่างสุภาพสักหน่อยก็อาจกล่าวว่าในประเทศที่กำลังพัฒนาแทนที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ประเทศด้อยพัฒนา” ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต่างก็มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ประชากรมักตกอยู่ในความประมาท ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้นภายในสังคมรวมทั้งตัวเอง มักมีแนวโน้มมองออกไปสู่ด้านนอกจนเป็นนิสัย ดังจะเห็นได้ว่าครั้งใดที่มีปัญหาเกิดขึ้นมักเรียกร้องหาผู้ที่จะมาช่วยแก้ไขจากภายนอก แทนที่จะหวนกลับมาพิจารณาทบทวนตัวเอง ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อปีพ.ศ. 2475ที่มีการปฏิวัติโดยกำลังทหารเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้วิเคราะห์ได้ว่าคนกลุ่มนั้นต้องการประชาธิปไตยจากภายนอกแทนที่จะหวนกลับมาหารากเหง้าอันหมายความถึง รากฐานประชาธิปไตยนั้นคืออิสรภาพที่มีอยู่ในจิตใต้สำนึกของทุกคน จึงก่อให้เกิดความเมตตากรุณาแก่คนระดับล่าง อันที่จริงแล้วก่อนหน้าปี พ.ศ. 2475 พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ก็ทรงมีพระเมตตาแก่พสกนิกรอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะสามารถปกครองประชากรโดยเฉพาะในระดับพื้นดิน ซึ่งหมายความถึงชาวนาชาวไร่ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขได้อย่างไร ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คนกลุ่มนั้นน่าจะขาดการหวนกลับพิจารณาทบทวนตัวเองจึงได้กระทำไปอย่างประมาทขาดสติ มาถึงเรื่องการจัดการศึกษาอันควรถือว่าคือพื้นฐานสำคัญในด้านความมั่นคงของชาติ จากเหตุการณ์ที่ทางการได้เชิญประชุมสัมมนากรรมการสภามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ อนึ่ง การจัดการดังกล่าวได้ปรากฏว่ามีคณะกรรมการคลังสมองของชาติเป็นฝ่ายกำหนดนโยบายและโครงสร้าง ซึ่งหลักฐานที่ปรากฏนั้น แม้จะถูกส่งแยกกันมาก็ตามแต่เนื้อหาสาระมีความสัมพันธ์ถึงซึ่งกันและกัน นอกจากนั้นยังได้เขียนไว้ภายในเอกสารการประชุมของสถาบันคลังสมองของชาติที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนดังต่อไปนี้ คณะกรรมการดังกล่าวได้มีมติให้เลือกคณะกรรมการบริหารสมัชชานายกสภาสถาบันอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้แทนจากมหาวิทยาลัย 6 กลุ่ม ๆละ 2 คน มหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาลัย/มหาวิทยาลัยเอกชน และวิทยาลัยชุมชน อนึ่ง ฉันได้เขียนไว้ในบทความเกี่ยวกับการจัดการศึกษาหลายครั้งหลายหนแล้วว่า […]

By admin | บทความ
DETAIL

การจัดการศึกษาไทย ให้โอกาสหรือฆ่าวิญญาณเยาวชนกันแน่

ทุกวันนี้ ปัญหาในสังคมไทย นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น จากประสบการณ์ที่ชีวิตฉันผ่านพ้นมาแล้ว 88 ปี สิ่งที่นำมาเริ่มต้นคงไม่ใช่เพียง 5 ปี 10 ปี แต่เท่าที่ได้นำปฏิบัติมาตลอด ทำให้จำได้แทบทุกเรื่อง หากนำมาเรียงลำดับอย่างสอดคล้องกันกับความสัมพันธ์ก่อนหลัง คงสรุปได้ว่า ปัญหาดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากคนไทยยึดติดอำนาจทำให้ดูถูกกันเอง โดยเฉพาะการดูถูกคนซึ่งชีวิตยังตกทุกข์ได้ยากรวมทั้งเยาวชนคนรุ่นหลังว่ามีความรู้น้อยกว่าตน เมื่อยึดติดอำนาจ ไม่ว่าจะคิดทำการสิ่งใดก็มักเดินสวนทางกันกับหลักธรรมอันหมายถึง “ยกตนข่มท่าน” ฉันพูดมาตลอดว่า “ปัญหาเหล่านี้ ถ้าจะถามว่าใช้อะไรเป็นหลักในการแก้ไข ?” คำตอบก็คงมีอยู่เพียงประโยคเดียวว่า “ใช้หลักธรรมเท่านั้นที่จะคิดแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง” ทั้งนี้ หลักธรรมไม่มียุคสมัย และไม่มีการแต้มสี แต่คนซึ่งทำหน้าที่แก้ไขจะต้องมีรากฐานจิตใจที่อิสระโดยไม่ยึดติดอยู่กับอัตตา และควรมีจิตใต้สำนึกที่รำลึกอยู่เสมอว่า “ทุกคนต่างก็เป็นคนเหมือนตน” ซึ่งความรู้สึกดังกล่าว ย่อมมี 2 ด้าน เมื่อด้านในมีความรู้สึกว่าทุกคนต่างก็เป็นคนเหมือนตน ดังนั้นด้านนอกก็ย่อมยอมรับความแตกต่างอันเป็นธรรมชาติและควรถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา โดยไม่นำมาเรียกร้องเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน ดังจะพบความจริงว่า ในช่วงที่ฉันเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัยมาในอดีต ฉันไม่เคยรู้สึกว่าชนรุ่นหลังคือชีวิตที่ต่ำกว่าตน จึงไม่ยกตนข่มท่าน แต่ฉันกลับพูดย้ำอยู่เสมอว่า “ครู (ซึ่งหมายถึงผู้ใหญ่ทุกคน) ถ้าขาดการตระหนักได้ว่า ลูกศิษย์คือครูตน แม้คนที่ชีวิตอยู่ระดับล่างเช่นชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ความเป็นครูและความเป็นผู้บริหารที่มีวิญญาณความเป็นมนุษย์ย่อมยังไม่เกิด” ขณะนี้ ฉันได้กลิ่นโชยมาว่า ทางการจะจัดให้มีการประชุมผู้บริหารสถาบันการศึกษาระดับบน แต่ครั้นนำเอาเอกสารมาพิจารณา กลับทำให้รู้สึกเสมือนยิงหัวจรวดอาร์พีจีเข้าไปฝังไว้ในชุมชนคนรุ่นหลัง […]

By admin | บทความ
DETAIL

การประชุมวิชาการ ที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553

ท่านที่เคารพทุกท่าน ด้วยกระผมในฐานะนายกสภาสถาบันอาศรมศิลป์ ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนอันถือรากฐานจิตใจที่อิสระเป็นหลักและคือวิถีการจัดการ “ศึกษาทางเลือก” (Alternative  Education) ทั้งนี้หาใช่การเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวเป็นเรื่องของกระผมไม่ หากได้รับการขอร้องในขณะที่สภาวะการจัดการศึกษาของชาติกำลังตกอยู่ในสภาพที่มีปัญหาหนักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำตัวเองลงมาสู่ระดับล่างเพื่อมองเห็นความจริงในเรื่องนี้ จึงถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ไม่ควรปล่อยปละละเลยปัญหาของสังคม หากควรนำปฏิบัติอย่างดีที่สุดและพิจารณาตนเองถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเพื่อถอนตัวออกมาปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ภายในจิตใต้สำนึก ทั้งนี้เนื่องจาก การศึกษาทางเลือก มีเหตุอันควรนำมาพิจารณาว่า การจัดการศึกษาของไทยเท่าที่เป็นมาแล้วมีรากฐานที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลวัฒนธรรมทางวัตถุ ทำให้จิตวิญญาณของเยาวชนส่วนใหญ่ขาดอิสระ ผลที่ปรากฏก็คือ ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของคนในชุมชนท้องถิ่นที่ผ่านการหล่อหลอมโดยบรรยากาศดังกล่าว ขาดคุณธรรมประจำใจและขาดจริยธรรมในการนำปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ จึงเกิดปัญหาการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ถึงขั้นทำให้สังคมเกิดความเดือดร้อนหนักมากยิ่งขึ้น ในฐานะที่กระผมได้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด แม้นำเอกสารเชิญประชุมรวมทั้งสิ่งที่แนบมาด้วยมาพิจารณา แม้ตัวเองยังมีสติปัญญาไม่มากนัก แต่ก็ได้เห็นเงื่อนปมที่แฝงอยู่ในเอกสารดังกล่าว ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เกิดอิสรภาพ หรืออีกนัยหนึ่งสะท้อนให้เห็นวิถีการจัดการที่ควรจะช่วยให้รากฐานจิตใจมีโอกาสสู่อิสรภาพให้เชื่อมั่นได้ อนึ่ง กระผมเชื่อมั่นว่า “ความหวังที่จะแก้ไขปัญหาที่แฝงอยู่ในจิตวิญญาณมนุษย์เพื่อนำไปสู่คุณภาพในการดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั้น ควรใช้หลักธรรมนำปฏิบัติ ย่อมแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง” ประการสำคัญอันดับแรกที่ปรากฏอยู่ในเอกสารการเชิญประชุมนั้นคือ ปรากฏการณ์ที่กระผมได้รับจากการดำเนินชีวิตมาในอดีตตั้งแต่ปีพ.ศ.2520 ได้แก่การจัดตั้งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และกระผมได้เข้าไปมีบทบาทเป็นเลขานุการที่ประชุมจึงช่วยให้รู้ความจริงได้เป็นส่วนใหญ่ ครั้นกระผมพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมาแล้ว ตัวเองได้จัดตั้งที่ประชุมสภาอาจารย์ทั่วประเทศขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการนำคนระดับบนลงมาสู่ระดับล่างเพื่อก่อให้เกิดปัญญาในการสร้างสรรค์พื้นฐานการศึกษาอย่างสำคัญ โดยเฉพาะเน้นการลงไปคลุกคลีอยู่ในชนบทซึ่งถือว่านำปฏิบัติอย่างได้ผลตามหลักความจริง ดังจะพบได้จากบทความเรื่อง “ประสบการณ์ในการบริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์”และบทความเรื่อง “สูงที่สุดคือต่ำที่สุด”ซึ่งควรถือว่าคือการปฏิบัติตามหลักธรรมะ ทั้งนี้เพราะเหตุว่า เมื่อร่างกายขึ้นไปเป็นผู้บริหารระดับสูง ตัวเองก็ควรลงมาสัมผัสกับคนระดับต่ำ แต่การนำคนซึ่งเป็นผลิตผลจากการจัดการศึกษาลงมาทำงานในระดับล่างนั้น บัดนี้ได้หวนกลับขึ้นไปสู่ระดับสูงยิ่งกว่าเก่า ซึ่งโบราณได้ชี้ไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า การที่คนระดับสูงลงมาทำงานในระดับล่างนั้นย่อมเกิดปัญญาที่แตกฉานให้เชื่อมั่นได้จึงทำให้เกิดวิถีการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยให้ตัวเองเข้าใจถึงสัจธรรมในการดำเนินชีวิตที่เป็นความจริง และยังมีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยพสกนิกรอย่างเด่นชัดมาตลอด ซึ่งประเด็นนี้พระองค์ท่านทรงดำรงอยู่เหนือเกล้าของคนไทยทุกคน แต่ในทางปฏิบัติได้เสด็จลงมาทรงงานคลุกคลีอยู่กับความทุกข์ยากของชาวบ้านด้วยพระองค์เอง จึงมีโอกาสทรงทราบความจริงได้อย่างลึกซึ้ง อันควรถือว่าคือแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้บริหารทุกระดับให้ดำเนินตามรอยพระยุคลบาท […]

By admin | บทความ
DETAIL
Page 20 of 23« First...10...1819202122...Last »
[สถาบันอาศรมศิลป์] : เลขที่ ๓๙๙   ซอยอนามัยงามเจริญ ๒๕  แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ๑๐๑๕๐
โทรศัพท์. ๐๒-๔๕๙-๓๒๒๖-๗, ๐๒-๘๖๗-๐๙๐๓-๔ โทรสาร. ต่อ ๑๓๙ E-Mail : [email protected]
[ศ.ระพี สาคริก]
บ้านเลขที่ 6 ถ.พหลโยธิน ซอย41 ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 Tel:025791028 email : [email protected]
[Professor. Rapee Sagarik] 6 Paholyothin Rd. Soi 41 Ladyao, Jatujak, Bangkok 10900 , Thailand
TOP